วงจรการพัฒนาธุรกิจออนไลน์
การตลาดออนไลน์ |
องค์ประกอบหลักของตลาดออนไลน์
การตลาดออนไลน์จะเริ่มเข้ามาบทบาทกับการทำธุรกิจมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่แค่ไหน เพราะ "การสื่อสารของคนไทย
ได้เริ่มเปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว" เมื่อธุรกิจใด จะเข้าสู่ตลาดออนไลน์จะต้องศึกษาถึงองค์ประกอบหลักของตลาดออนไลน์
(Digital
marketing)ที่มีอยู่ดังนี้
1.Digital marketing
Place
ตลาดออนไลน์แต่ละแห่งจะมีกฏเกณฑ์ที่ผู้เข้าใช้บริการจะต้องปฎิบัติตาม
ผู้ซื้อแต่ละตลาดแตกต่างกัน
"รู้ตลาดชนะตลอด" ตลาดของโลกออนไลน์
ที่ผู้คนในประเทศไทยเข้าไปใช้บริการซื้อ-ขาย โดยผ่านอุปกรณ์ โมบายหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกับอินเทอร์เน็ต
สรุปได้เป็น 3 ตลาดขนาดใหญ่ดังนี้
1.1ตลาดออนไลน์ที่ใช้เพลทฟอร์มของ
Google
search มีผู้คนในประเทศไทย
ใช้ Google มากกว่า 90 % ในการค้นหาข้อมูล รวมมากกว่า 35
ในปี 2025 ตลาดดิจิทัลในไทยจะมีมูลค่า สูงถึง 6.5 เท่า ของมูลค่าตลาดในปัจจุบัน
เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
1.2.ตลาดออนไลน์ที่ใช้เพลทฟอร์มของ
Facebook
และ Social Media มีผู้คนในประเทศไทยใช้ Facebook
มากกว่า 25 ล้าน คนจำนวนผู้ใช้ Social Media เติบโตขึ้น
19% ใช้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการต่างๆอย่างแพร่หลาย
แพลตฟอร์มที่คนไทยใช้มากที่สุดคือ Facebook รองลงมาคือ LINE,
Facebook Messenger, Google+ และ Instagram
1.3.ตลาดออนไลน์ที่ใช้เพลทฟอร์มอื่นๆ
ที่นิยมของราย่อยเข้าไปซื้อ-ขายสินค้าเช่น Pantipmarket, Lazada,Kaidee, Thai2hand .11st..และอื่นๆ.
2.Digital marketing
Tools
2.1.การลงโฆษณาผ่าน
Facebook
หรือ Google หรือเรียกว่า (Search
Engine Marketing) SEM บริการของ Google Adwords อยู่ในรูปแบบของ PPC (Pay Per Click) หรือ
การจ่ายเงินเมื่อมีการคลิ๊กเข้าไปดูโฆษณาของเราเท่านั้น
ถ้าไม่มีคนคลิ๊กโฆษณาเราก็ไม่เสียเงินใดๆทั้งสิ้น
2.2.Search Engine Optimization
(SEO)พูด ง่ายคือการทำให้เว็บเราแสดงผลต้นๆ ในการแสดงผลในการค้นหา
เช่น ประกันภัยรถยนต์ เมื่อเราคีย์คำว่า "วิธีขายประกันรถยนต์ออนไลน์"
ในช่องแสดงผลการค้นหา เราจะต้องเจอเว็บไซต์ของเราใน ลำดับหน้าต้นๆของการค้นหา ก็จะถือว่าการทำ SEO
ประสบผลสำเร็จ ข้อดีคือประหยัด แสดงผลได้ยาว
ข้อเสียคือช้าต้องวิเคราะห์และมีขั้นตอนหลายอย่างในการทำ (SEO)
2.3.Social Media
Optimization (SMO)การ ทำการตลาดรูปแบบของ Social Network ปัจจุบันการทำโฆษณาในลักษณะนี้ สามารถเข้าถึงผู้คนได้หลากหลาย Social
Network ก็คือ สังคมออนไลน์ เช่น Twistter, Facebook
,Google+ และอื่นๆ โดยทั่วๆไปแล้ว
การทำโฆษณาลักษณะนี้นิยมใช้ในการสร้างแบรน
3. Digital marketing
Model
3.1 Information หรือ Content คือ
การสื่อสารที่สามารถวัดผลได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้
และสร้างศักยภาพให้แก่กลุ่มเป้าหมาย Content Marketing แปลเป็นภาษาไทยแบบตรงตัวว่า
“การทำการตลาดโดยใช้เนื้อหา”
3.2 Affiliate ก็คือการตลาดอย่างหนึ่ง
โดยถ้าให้อธิบายการทำงานของมันก็คือ การเป็นนายหน้า
หรือช่วยขายสินค้าของคนอื่นแล้วได้ค่า commission กลับมาเป็นค่าตอบแทน
3.3 Dropship คือการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าโดยที่ตัวแทนจำหน่ายไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง
การทำธุรกิจด้วยวิธีการแบบ Dropship นั้นสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้โดยไม่มีเงินทุน
ไม่ต้องมีสต็อกสินค้า ไม่ต้องวุ่นวายกับการผลิต
3.4 Website ขายสินค้าโดยตรงเป็นระบบอีคอมเมอร์ช หรือwebประชาสัมพันธ์สินค้า
4.Digital marketing
Analysis
4.1 Google
Analytics คือ
เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์สถิติ เชิงลึกให้กับหน้าเว็บเพจ โดยจะให้รายละเอียด
ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ได้มากมาย
4.2 Facebook Analytics คือโซลูชั่นการวิเคราะห์ที่ช่วยให้คุณเข้าใจว่าผู้คนใช้ Fanpage ของคุณมีพฤติกรรมอย่างไร
4.3
ROI การวิเคราะห์ถึงผลตอบแทนจากการดำเนินการกิจกรรมทางการตลาดออนไลน์
4.4 Re-targeting
4.4 Re-targeting
จุดสุดยอดของการขายของออนไลน์ คือการไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา แล้วขายของได้ ‼เรียน SEO เพื่อประหยัดค่าโฆษณามากกว่า 100%
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น